ธนชาตประกันภัย ประกาศแนวทางดูแลลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า EVขานรับคำสั่งนายทะเบียน คปภ. เริ่มคุ้มครองตามเกณฑ์ใหม่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป
ธนชาตประกันภัย ประกาศความพร้อมแนวทางการดูแลลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 เรื่องให้บริษัทประกันวินาศภัยใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทฯ จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2567เป็นต้นไป ซึ่งกรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์ใหม่มีความคุ้มครองแตกต่างจากแบบเดิม ยืนยันหากลูกค้าต่ออายุกรมธรรม์ก่อนเกณฑ์ใหม่จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิมตลอดอายุสัญญา ตอกย้ำความมั่นใจทุกความต้องการของลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และการดูแลอย่างดีที่สุด
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่นายทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยเริ่มใช้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ. กำหนด เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป ซึ่งความคุ้มครองตามเกณฑ์ใหม่จะมีความแตกต่างจากประกันภัยรถยนต์ที่ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าถือครองอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ ธนชาตประกันภัย ในฐานะผู้นำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่ให้การดูแลลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าด้วยความคุ้มครองที่ได้มาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกประกาศแนวทางการดูแลลูกค้าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า 2 กรณี ดังนี้
1.กรณีลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยก่อนวันที่ 1 มิ.ย.67 ทั้งการต่ออายุตามวันคุ้มครองหรือการต่ออายุล่วงหน้า จะได้รับผลประโยชน์ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์เดิมตลอดอายุสัญญา โดยคุ้มครองความเสียหายทั้งตัวรถและแบตเตอรี่เต็มตามทุนประกัน รวมถึงยังไม่จำเป็นต้องระบุผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ อย่างไรก็ตามหากลูกค้าต้องการเปลี่ยนกรมธรรม์เป็นประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์และเงื่อนไขความคุ้มครองฉบับใหม่ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ Call Center โทร.02-666-8899 กด 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป
2.กรณีลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป ผลประโยชน์ความคุ้มครองจะเป็นไปตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเกณฑ์ใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างจากกรมธรรม์เดิม 2 เรื่อง ได้แก่ ความคุ้มครองแบตเตอรี่และความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของทุนประกันภัย โดยกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจนต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดจะได้รับการชดใช้สินไหมทดแทนตามอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยปีแรกจะชดใช้สินไหมทดแทน 100% จากนั้นจะค่อยๆ ปรับลดลงตามขั้นบันไดปีละ 10% (ต่ำสุด 50% กรณีแบตเตอรี่อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป) ส่วนอีกเรื่องคือ ลูกค้าจำเป็นต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์อย่างน้อย 1 คน และสามารถระบุสูงสุดได้ 5 คน ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วชื่อผู้ขับขี่ไม่ตรงกับชื่อในกรมธรรม์ ลูกค้าจะต้องเสียค่า Excess สูงถึง 6,000 บาท โดยบริษัท ฯ จะนำชื่อเจ้าของกรมธรรม์ฉบับเดิมระบุเป็นชื่อผู้ขับขี่คนแรก และสามารถเพิ่มชื่อผู้ขับขี่เพิ่มเติมได้ทาง Line Official Account “ธนชาตประกันภัย”
นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ และยังคงมาตรฐานการให้บริการในระดับสูงสุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนความยั่งยืนด้านพลังงานและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน อันจะส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคมโดยรวมต่อไป