BLA กวาดกำไรปี 67 รวม 3,623 ล้านบาท โตพุ่ง 42%เคาะจ่ายปันผลปี 2567 หุ้นละ 0.68 บาท รวม 1,159 ล้านบาท


กรุงเทพประกันชีวิตเปิดผลดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 954 ล้านบาท เติบโต 166% มาจากเบี้ยรับปีแรก 2,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% โดยมาจากช่องทางธนาคารที่เพิ่มขึ้น 43% ส่งผลกำไรสุทธิปี 2567 รวมกว่า 3,623 ล้านบาท เติบโต 42% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 หุ้นละ 0.68 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 1,159 ล้านบาท
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวนทั้งสิ้น 2,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากช่องทางธนาคารที่มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 ขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกลดลงร้อยละ 2 และช่องทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จากผลิตภัณฑ์ประกันกลุ่ม โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 8,437 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 954 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 166 จากไตรมาส 4 ปี 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 7,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 34,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมแยกตามช่องทางต่างๆ ได้แก่ ช่องทางธนาคาร ร้อยละ 56 ช่องทางตัวแทน ร้อยละ 38 และช่องทางอื่น ๆ ร้อยละ 6 ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2567 จำนวน 3,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 314,575 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่ร้อยละ 4 จากการลดลงของสินทรัพย์ลงทุนจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนด โดยสินทรัพย์ลงทุนและรายการเทียบเท่าเงินสดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 97 ของสินทรัพย์รวม บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ร้อยละ 441 ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 140
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.68 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,159 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 32 ของกำไรสุทธิซึ่งสูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ โดยให้จ่ายจากกำไรสะสมซึ่ง บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 0.48 บาท หรือคิดเป็นเงินจำนวน 820 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 เมษายน 2568
นายโชนกล่าวว่า ในปี 2567 กรุงเทพประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมาได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อขับเคลื่อนองค์กรทำหน้าที่ด้วยความ “ใส่ใจ” ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มพร้อมเปิดตัวแบรนด์แคมเปญ “ใส่ใจ” สื่อภาพลักษณ์ผ่านปรัชญาการทำงานบนความ “เชื่อมั่นในพลังของความใส่ใจ” เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจ (The Most Caring Life Insurance Brand) และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
“บริษัทมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากความใส่ใจ เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ถือกรมธรรม์ ผ่านตัวแทนที่มีความจริงใจ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่ดีและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย พร้อมกับส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงินให้สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมทั้งสร้างพลังบวกและการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการใส่ใจเพื่อส่งต่อการให้บริการที่ประทับใจไปสู่ลูกค้า” นายโชนกล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า
กรุงเทพประกันชีวิตยังส่งเสริมให้พนักงานมีความสุข มีความก้าวหน้าและมีความมั่นคงในอาชีพมีการเพิ่มพูนทักษะให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ เคารพในความแตกต่าง ให้ความเสมอภาค ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ที่เข้าใจ จริงใจ ใส่ใจ (The Most Caring Life Insurance Brand) ที่ดูแลลูกค้ามากกว่าแค่การประกันชีวิต
ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดแคมเปญสื่อสารในช่องทางธนาคารกรุงเทพ สำหรับผลิตภัณฑ์ เกนเฟิสต์ อี-เซฟวิ่งส์ 10/5 สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่ต้องมีการวางแผนภาษี ได้แก่ มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ และเจ้าของกิจการ และดำเนินแคมเปญ “ใส่ใจสตอรี่” เป็นปีที่ 2 เพื่อนำเสนอความใส่ใจที่ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินต่อลูกค้าที่ดูแลตามแนวทางความใส่ใจอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ ยังได้รับรางวัล “บริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น” อันดับที่ 2 ประจำปี 2566 (Prime Minister’s Insurance Awards) และรางวัล Sustainability Rising Star จากเวที Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards 2024 หรือ ACES Awards 2024 สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารงานที่มีความใส่ใจ ยึดหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อความสุขที่ยั่งยืน