การค้าชายแดนและผ่านแดน ผ่าน 11 เดือน โตต่อเนื่อง ขยายตัว 6.0%
การค้าชายแดนและผ่านแดน ผ่าน 11 เดือน โตต่อเนื่อง ขยายตัว 6.0%เดินหน้าผลักดันต่อในปี 2568 เตรียมจัดกิจกรรมใน 6 จังหวัด ประเดิมงานแรก ม.ค. 68 ที่โคราช
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 150,203 ล้านบาท ขยายตัว 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 85,676 ล้านบาท (+15.3%) และการนำเข้า 64,527 ล้านบาท (-8.0%) โดยไทยได้ดุลการค้า 21,149 ล้านบาท ทำให้การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 1,665,295 ล้านบาท (+6.0%) เป็นการส่งออก 957,945 ล้านบาท (+6.5%) และการนำเข้า 707,350 ล้านบาท (+5.4%) โดยไทยได้ดุลการค้าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 ทั้งสิ้น 250,596 ล้านบาท
การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 82,439ล้านบาท (+4.6%) เป็นการส่งออก 51,707 ล้านบาท (+5.7%) การนำเข้า 30,732 ล้านบาท (+2.8%) และไทยได้ดุลการค้า 20,974 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 25,395 ล้านบาท (+2.8%) รองลงมา คือ สปป.ลาว 23,865 ล้านบาท (+1.3%) เมียนมา 18,286 ล้านบาท (+1.9%) และกัมพูชา 14,893 ล้านบาท (+18.1%) ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 3,479 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,597 ล้านบาท และน้ำยางข้น 1,320 ล้านบาท ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การค้าชายแดนมีมูลค่าการค้ารวม 899,095 ล้านบาท (+5.1%) เป็นการส่งออก 551,676 ล้านบาท (+3.2%) การนำเข้า 347,419 ล้านบาท (+8.4%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 204,256 ล้านบาท
ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 67,764 ล้านบาท(+3.2%) เป็นการส่งออก 33,969 ล้านบาท (+33.8%) และการนำเข้า 33,795 ล้านบาท (-16.1%) โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงสุด 37,264 ล้านบาท (+9.0%) รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 8,859 ล้านบาท (+2.7%) และ 5,867 ล้านบาท (19.3%) ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 7,497 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 3,006 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 2,344 ล้านบาท ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การค้าผ่านแดนมีมูลค่าการค้ารวม 766,199 ล้านบาท (+7.0%) เป็นการส่งออก 406,269 ล้านบาท (+11.2%) การนำเข้า 359,930 ล้านบาท (+2.6%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 46,339 ล้านบาท
การส่งออกชายแดนไปเมียนมากลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยในเดือนพฤศจิกายน 2567 การส่งออกชายแดนไทย – เมียนมา มีมูลค่า 11,402 ล้านบาท ขยายตัว 6.5% ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาจะทำให้การค้าชายแดนไทย – เมียนมา หยุดชะงักและเส้นทางขนส่งทางบกไม่ปลอดภัยในพื้นที่บริเวณตรงข้ามด่านแม่สอด จังหวัดตาก อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าจากไทยยังคงมีอยู่สูง จึงมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสินค้าไปใช้จุดผ่านแดนอื่นๆ ที่มีความพร้อม อาทิ ด่านศุลกากรระนอง มูลค่าการส่งออก 2,257 ล้านบาท(+131.0%) ด่านศุลกากรแม่สาย มูลค่าการส่งออก 1,496 ล้านบาท (+13.0%) และด่านศุลกากรสังขละบุรี มูลค่าการส่งออก 708 ล้านบาท (+714.5%) โดยสินค้าส่งออกสำคัญผ่านทั้ง 3 ด่านดังกล่าว ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ เครื่องดื่ม และกระเบื้องปูพื้น เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในปี 2568 กรมการค้าต่างประเทศมีแผนงานเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ที่มุ่งเน้นผลักดันให้เดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและการค้าชายแดนให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยจะจัดกิจกรรมภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสทางการค้าให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อยในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ในทุกภูมิภาคตามพื้นที่แนวชายแดนหรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะประเดิมงานแรกที่งาน “พาณิชย์นำทัพสินค้าชุมชน จัดงานแสดงสินค้าโคราช มอบของขวัญปีใหม่ 2568” ระหว่างวันที่ 23 – 26 มกราคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องในพื้นที่ตามแนวชายแดนหรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการกระจายการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การกระจายความเจริญและความมั่งคั่งไปยังจังหวัดตามแนวชายแดนหรือแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่