พาณิชย์จ่อใช้ยาแรง สกัดกั้นการนำเข้าขยะ
กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ เตรียมยกระดับมาตรการสกัดกั้นการนำเข้าขยะ หากยังพบว่ามีการสำแดงสินค้าว่าเป็นเศษกระดาษที่คัดแยกประเภทแล้วนำเข้ามาเพื่อรีไซเคิล แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่าสินค้ามีขยะเจือปนอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นของเสียอันตรายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน และก่อให้เกิดมลพิษอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้รับการรายงานมาเป็นระยะว่า พบผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้าเศษกระดาษเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในโรงงานสำหรับผลิตเป็นกระดาษและบรรจุภัณฑ์ แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของสินค้าแล้วพบว่า สินค้านำเข้ามีของเสียและวัสดุอื่นเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งจัดว่าเป็นขยะอันตราย เช่น ของใช้แล้วจำพวก ขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย ถุงน้ำยาทางการแพทย์และสายยาง ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศษกระดาษที่สั่งซื้อเข้ามา ไม่ได้รับการคัดแยกประเภทและไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานสิ่งเจือปนที่ยอมรับได้จากประเทศต้นทาง โดยสินค้าที่มีของเสียและวัสดุอื่นเจือปนเข้าข่ายเป็นขยะเทศบาลซึ่งเป็นสินค้าห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะเทศบาลเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 ดังนั้น การนำเข้าเศษกระดาษที่ปะปนขยะดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอให้ผู้ประกอบการนำเข้าเพิ่มความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการคัดเลือกตัวแทนผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อจะได้ไม่นำขยะจากต่างประเทศเข้ามาในไทยซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าติดตามและได้เตรียมยกระดับความเข้มข้นของมาตรการในการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะหากปล่อยให้มีการนำเข้าขยะดยไม่มีการกำจัดและบริหารจัดการที่ดีก็จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การบำบัดและฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมก็ต้องใช้ระยะเวลานานและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรงอีกด้วย
“การตรวจสอบพบการนำเข้าเศษกระดาษที่เจือปนของเสียหรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งมีวัสดุที่เข้าข่ายเป็น ขยะอันตราย (Hazardous Waste) และของเสียทางการแพทย์ (Medical waste) มาเป็นระยะในช่วงที่ผ่านมาเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและได้สร้างความเสียหายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก รวมทั้งส่งผลเสีย ต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ดังนั้น หากยังพบว่ามีการนำเข้าเศษกระดาษโดยมีของเสียและวัสดุอื่นๆ ที่เป็นอันตรายเจือปน กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศจำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวด เช่น การห้ามนำเข้าเศษกระดาษหรือการกำหนดมาตรการใบอนุญาตนำเข้าเศษกระดาษที่ต้องกลั่นกรองอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป” นายรณรงค์ฯ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป โทร. 0 2547 5121