การค้า การส่งออก

DITP เผย 10 เทรนด์อาหารมาแรงในตลาดแคนาดาประจำปี 2565

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย 10 เทรนด์อาหารที่มีแนวโน้มเติบโตในตลาดแคนาดาประจำปี 2565 พบส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง มุ่งปกป้องสิ่งแวดล้อม ระบุผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยควรศึกษาและนำมาปรับใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก แนะใช้ข้อได้เปรียบด้านสมุนไพร นำมาผลิตเป็นอาหาร แทนที่จะส่งออกเป็นวัตถุดิบอย่างเดียว

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ถึงเทรนด์ตลาดสินค้าอาหารสุขภาพในแคนาดา ปี 2565 แล้ว หลังจากที่ได้มอบหมายให้ทำการศึกษาแนวโน้มการทำตลาดให้กับสินค้าไทย ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยทูตพาณิชย์ได้ทำการศึกษาและรวบรวมอาหารที่มีแนวโน้มเติบโตได้จำนวน 10 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง มีสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย และเป็นสินค้าที่ให้คุณค่าเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
โดยสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตทั้ง 10 รายการ ได้แก่

1.รสส้มยูสุ (Yuzu) เพราะจุดเด่นของรสชาติส้มที่ไม่หวานมากนัก แต่มีกลิ่นความหอมจากส้มโดยเฉพาะ อีกทั้งสรรพคุณที่มีวิตามินซีสูง ส้มยูสุจะกลายเป็นรสชาติที่ผู้ผลิตอาหารหลายรายเลือกมาใช้แต่งกลิ่นและรสชาติอาหารสำหรับปี 2565 อาทิ น้ำส้มสายชูหมัก ไอศกรีม มายองเนส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อัดก๊าซ (Hard Seltzers) และสามารถสะท้อนความต้องการผู้บริโภคในด้านสุขภาพที่ดีได้อย่างลงตัว

2.Ultraurban Farming การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์หรือการปลูกผักไร้ดิน เพราะระบบการปลูกผักวิธีนี้จะช่วยประหยัดน้ำมากกว่าการปลูกผักในดินปกติไม่น้อยกว่า 10 เท่า และยังป้องกันมลพิษที่จะเกิดขึ้นในพื้นดินจากการใช้สารเคมี โดยปัจจุบันจึงกลายเป็นวิธีการที่นิยมปลูกกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเกษตรกรมีการนำเทคโนโลยีการจัดการมาใช้ที่ทำให้พืชผักมีความสะอาด และสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิต มากขึ้น ส่งผลให้สามารถป้อนผลผลิตสู่ตลาดอาหารในวงกว้างได้

3.Reducetarianism สนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์และเกษตรกรรมยั่งยืนมากขึ้น โดยการลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากวัวและไข่ที่มาจากการเลี้ยงในเชิงอุตสาหกรรม แต่เลือกซื้อเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ อาทิ เนื้อวัวจากวัวที่เลี้ยงในทุ่ง หญ้า ไข่จากแม่ไก่ที่จะปล่อยอิสระหาอาหารจากธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งเทรนด์การเลือกซื้อเช่นนับว่าเป็นการเสริมสร้าง สุขภาพที่ดี ลดการทำลายสิ่งแวดล้อมและทารุณกรรมจากการเลี้ยงสัตว์

4.ดอกชบา (Hibiscus) โดยได้รับการยอมรับว่ามีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ด้วยรสชาติรสเปรี้ยวเล็กน้อย และอุดมด้วยวิตามินซี ผู้ประกอบการอาหารจึงเลือกนำมาเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ ใส่ในชา โยเกิร์ต แยมผลไม้

5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไร้แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% ซึ่งขณะนี้ตลาดแคนาดาพบดีมานด์ตลาดเครื่องดื่มกลุ่มนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงการเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ผู้บริโภคมองหาเครื่องดื่มใหม่ ๆ เพื่อดื่มทดแทนเบียร์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ สำหรับกลุ่มคนที่ไม่อยากได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์ แต่ยัง
คงได้ประสบการณ์การดื่มที่สนุก ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

6.ธัญพืชจากฟาร์มรักษ์โลก จากแนวคิดที่ผู้บริโภคต้องการสนับสนุนการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นกระแสรักษ์โลกที่มาแรงไม่หยุด ผู้ประกอบการค้าปลีกจึงต้องสรรหาวัตถุดิบที่มาจากฟาร์มเหล่านั้น เพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคนั้นให้ได้ เพราะเชื่อว่าเป็นอีกปัจจัยที่ผู้บริโภคจับตามอง องค์กรธุรกิจในทุกวันนี้กับกิจกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในลักษณะต่าง ๆ

7.เมล็ดทานตะวันธัญพืชเพื่อสุขภาพ จัดว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย จึงได้กลายเป็น ส่วนประกอบที่ผู้ผลิตอาหารเลือกนำมาใช้สำหรับขนมขบเคี้ยว ไอศกรีม ชีสสำหรับเทรนด์อาหารใหม่ ๆ

8.ใบมะรุม (Moringa) เป็นพืชกำเนิดในแถบใต้เชิงเขาหิมาลัยและในทวีปแอฟริกา โดยมะรุมเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในหลายด้าน และผู้ประกอบการได้มีการนำมาแปรรูปแบบผงแห้ง เพื่อให้ง่ายต่อการเป็นวัตถุดิบในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เครื่องดื่มสมูทตี้ ซอส ขนมอบ โปรตีนบาร์ และอื่น ๆ

9.เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมโซดาในแบบ Functional อาทิ โซดาสูตรผสมโปรไบโอติกส์ หรือน้ำโทนิคผสมพรีไบโอติกส์ โดยทั้งสองอย่างนั้น คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่มาแรงในวงการอาหาร โดยจัดเป็นกลุ่มอาหารที่เรียกว่าซูเปอร์ฟู้ด อาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง และมีคุณประโยชน์ด้านระบบย่อยอาหารเพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสุขภาพ อย่างแท้จริง

10.สมุนไพรขมิ้นชัน (Trumeric) ได้กลายเป็นสมุนไพรที่นิยมในอุตสาหกรรมยาและอาหารมาเมื่อไม่นานนี้ เนื่องด้วยมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระอยู่ในตัวสมุนไพรที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดความเสื่อมของร่างกาย และยังมีสรรพคุณที่ช่วยปรับและกระตุ้นระบบย่อยอาหารในร่างกาย ผู้ประกอบการอาหารจึงเลือกนำมาเป็นเครื่องปรุงและส่วนผสมในเมนูใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประโยชน์ให้กับอาหารที่รับประทาน เช่น ซีเรียล ขมิ้น ชันสมูทตี้ กะหล่ำปลีเปรี้ยว

“จากเทรนด์แนวโน้มอาหารปี 2565 ของแคนาดา ส่วนใหญ่เน้นเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การลดขยะจากอาหาร ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ที่ทำตลาดแคนาดา ควรศึกษาและนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ในการผลิตอาหารของไทย โดยเฉพาะการใช้วัตถุดิบสมุนไพรที่ไทยมีอยู่เป็นจำนวนมาก มาเพิ่มมูลค่าในอาหาร แทนที่จะส่งออกเป็นวัตถุดิบโดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่า และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารไทยเข้าสู่ตลาดแคนาดาได้เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดโลกอื่น ๆ” นายภูสิตกล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button